รถยนต์ คือ ยานพาหนะที่นำพาไปสู่จุดหมายปลายทางได้โดยสะดวกตลอดเวลาที่ต้องการ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน มักจะเลือกหาซื้อรถยนต์ไว้ขับส่วนตัว ช่วยอำนวยความสะดวกทุกการเดินทาง ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใคร แต่สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว เคยสังเกตไหมว่ารถที่ขับอยู่เป็นประจำมีความผิดปกติ หรือสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่าอาจเกิดอันตรายได้ หากยังคงฝืนใช้รถต่อไป แอดมินจะมาชวนเจ้าของรถคอยสังเกตสิ่งผิดปกติเหล่านี้ หากเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ อาจเป็นสัญญาณเตือนอันตรายและไม่ควรใช้รถ แต่ควรรีบนำไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ จะได้ทำการแก้ไขได้อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
1. ไฟสัญญาณเตือนหน้าปัดรถยนต์
สัญญาณเตือนรถยนต์ที่ไฟหน้าปัด คือ จุดที่คนขับสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลา และเห็นได้เด่นชัดที่สุด เพราะสัญญาณตัวนี้จะอยู่ด้านหน้า และจะแสดงสัญลักษณ์เตือนขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นการบ่งบอกปัญหาใดก็ตาม ซึ่งเป็นการเตือนว่ารถกำลังมีปัญหา และจะต้องทำการหยุดรถและตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้อันตรายหรืออุบัติเหตุได้
2. ใช้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์นานผิดปกติ
รถยนต์ปกติทั่วไปที่ไม่มีปัญหา ใช้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่นาน ส่วนใหญ่สตาร์ทปุ๊บ เครื่องยนต์ติดปั๊บ แต่ถ้ารถยนต์คันไหนใช้เวลาสตาร์ทนานกว่าปกติ บ่งบอกว่ารถคันนั้นกำลังมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเป็นไปได้ว่า แบตรถเสื่อม หรือแบตรถยนต์หมด
3. มีกลิ่นเหม็นไหม้
หากได้กลิ่นเหม็นไหม้ขณะสตาร์ทรถ หรือมีกลิ่นเหม็นไหม้ขณะขับรถยนต์ ไม่ว่ากลิ่นจะมากจากส่วนใดของรถก็ตาม แสดงว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นภายในรถ ซึ่งสาเหตุอาจมาจากสายพานไหม้ เบรกไหม้ สายไฟในเครื่องยนต์ไหม้ หรือ ท่อไอเสียแตก แต่ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากอะไร และเกิดขึ้นบริเวณส่วนใดภายในรถก็ตาม ล้วนแต่เสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หากยังคงใช้งานรถยนต์คันนั้นต่อไป ควรรีบนำรถไปตรวจเช็คโดยเร็วที่สุด
4. มีรอยน้ำมันหยด
เมื่อจอดรถแล้วพบว่ามีรอยน้ำมันหยดลงพื้น อาจเกิดจากระบบหล่อลื่นรั่วซึม ฝาครอบวาล์วรั่ว หรือ ซีลยางน้ำมันเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ เป็นต้น หากพบร่องรอยการหยดของน้ำมัน ซึ่งอาจมีสาเหตุดังกล่าว ควรรีบหยุดการใช้รถ แล้วนำรถยนต์เข้าทำตรวจสอบที่ศูนย์บริการ
5. รถยนต์เร่งความเร็วไม่ขึ้น
แม้ว่าจะไม่เห็นว่ามีรอยน้ำมันหยดตามในข้อ 4 แต่กลับพบว่า รถยนต์เร่งความเร็วไม่ขึ้น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือกรองน้ำมันเชื้อเพลิงได้แล้ว เพราะหากปลอ่ยทิ้งไว้นาน ๆ อาจส่งผลให้รถยนต์เสื่อมสภาพ และเสี่ยงอันตราย ก่อให้เกิดอุบัติเหตุขณะใช้รถได้
6. มีควันออกมาจากท่อไอเสีย
การใช้รถโดยทั่วไป จะมีควันไร้กลิ่น ไร้สี ออกมาจากท่อไอเสีย แต่เมื่อไรที่สีของควันเปลี่ยนไป บ่งบอกได้ว่า รถของคุณกำลังมีปัญหา ซึ่งเกิดความผิดปกติของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะบริเวณหล่อเย็น อาจเกิดปัญหาที่ปะเก็นแตก จนทำให้น้ำซึมผ่านเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และมีการเผาน้ำออกมาเป็นไอ บางกรณีอาจรุนแรงจนทำให้เครื่องยนต์น็อคได้
7. ขณะขับรถยนต์มีเสียงแปลก ๆ
ระหว่างที่ใช้งาน หรือขณะขับรถยนต์แล้วมีเสียงผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงเสียดสี เสียงกระทบกันของโลหะภายในรถยนต์ ควรรีบหยุดการขับรถ และเช็คหาต้นเหตุของเสียง เพื่อหาจุดที่เป็นปัญหาว่าชำรุดส่วนไหน จะได้ทำการแก้ไขได้ถูกต้อง หากไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการทันที ไม่ควรฝืนใช้รถต่อไป เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้