เชื่อว่าคนมีรถและผู้ที่ขับขี่รถเป็นประจำ ย่อมต้องเคยผ่านประสบการณ์แบตเตอรี่รถยนต์หมดกลางทาง จนต้องพึ่งพาการพ่วงแบตเตอรี่มาบ้าง อาจพ่วงรถด้วยตนเอง หรือใช้บริการจากช่างมืออาชีพ และหลายคนอาจคิดว่าการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์เป็นเรื่องง่าย ๆ สามารถทำได้ไม่ยาก แต่หากทำผิดขั้นตอน อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ และก่อให้เกิดอันตรายต่อคนและรถได้เช่นกัน วันนี้เรามีวิธีพ่วงแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งคนและรถมาฝากค่ะ
สิ่งแรกที่ต้องเตรียม คือ การเตรียมสายสำหรับพ่วงแบตเตอรี่ โดยสายพ่วงแบตจะมีสีแดงกับสีดำ ซึ่งสีแดงใช้ต่อกับขั้วบวก ส่วนสีดำใช้ต่อกับขั้วลบ สายพ่วงแบตถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะต้องมีติดในรถไว้เสมอ เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่าจะเกิดปัญหาฉุกเฉินเมื่อไร การมีติดรถไว้จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เมื่อเวลาจำเป็น
ก่อนทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จะต้องปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถทั้งหมดเสียก่อน จากนั้น หารถที่มีแบตเตอรี่ที่สามารถทำการพ่วงต่อได้ จอดรถหันหน้าเข้าหากัน โดยไม่ลืมเช็กว่าได้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถทั้ง 2 คัน เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟระหว่างพ่วงแบต ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ ตัวรถ หรือแม้แต่คนทำการพ่วงได้
อันดับแรกในการต่อพ่วงแบตเตอรี่ คือ นำสายพ่วงสีแดงต่อเข้ากับขั้วบวกของรถคันที่แบตหมด จากนั้นนำปลายสายพ่วงสีแดงอีกด้านต่อกับรถที่ให้ถ่ายแบตเตอรี่ แล้วนำปลายสายพ่วงสีดำต่อกับขั้วลบของรถที่ให้ถ่ายแบตเตอรี่ และนำปลายสายหนีบไว้กับโลหะในเครื่องยนต์ของรถแบตหมด และควรต่อทิ้งไว้อีกประมาณ 1 นาที หลังจากพ่วงแบตเตอรี่เสร็จ
เมื่อต่อสายพ่วงเสร็จเรียบร้อย และเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็ให้สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่แชร์แบตเตอรี่ สตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที โดยเร่งเครื่องเป็นช่วง ๆ เล็กน้อย เพื่อถ่ายเทประจุไฟฟ้า พร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์และเร่งเบา ๆ คันที่รถแบตเตอรี่หมด ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ให้ถอดสายพ่วงออก โดยเริ่มจากขั้วลบของคันที่แบตหมดก่อน แล้วจึงตามด้วยด้านที่พ่วงกับรถคันที่ให้การช่วยเหลือ
เห็นได้ว่า การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ได้ยุ่งยาก แต่ก็ควรทำด้วยความระมัดระวัง และทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนลำดับ เพื่อป้องกันความเสียหายและอันตรายที่เกิดจากการพ่วงแบตไม่ถูกวิธี ดังนั้น หากรักรถ รักชีวิต ต้องปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด