มอหินขาว ชัยภูมิ ประวัติและความมหัศจรรย์ เสาหินใหญ่แห่งแดนอีสาน 

E

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยได้ยิน และไม่เคยรู้มาก่อน มอหินขาวอยู่ที่ไหน และอาจไม่เคยคิดว่าเมืองไทยมีสถานที่สวยงามและแสนมหัศจรรย์ไม่แพ้ที่ใดในโลก 

มอหินขาวคืออะไร และทำไมจึงเรียกว่า มอหินขาว 

มอหินขาว คือ กลุ่มเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนลานกว้างในบริเวณเนินเขา ภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภาคอีสานบ้านเฮานี่เอง โดยที่มาของคำว่า มอหินขาว เป็นภาษาอีสาน คำว่า

  • “มอ” คือ เนิน , เขา หรือ ที่สูง 
  • “หินขาว” เพราะส่วนใหญ่เป็นหินทรายขาว และมีเรื่องเล่าของคนท้องถิ่นสมัยก่อน ว่าทุกคืนวันพระ จะมีแสงสีขาวส่องออกมาจากแท่งเสาหิน จึงเรียกว่า หินขาว 

โดยมอหินขาวเกิดจากการสะสมระหว่างตะกอนทรายและดินเหนียวจากในน้ำ หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ได้มีการแตกหัก กัดเซาะ ผุพัง ของเหล่าวัตถุิอินทรีย์ธรรมชาติ และการหล่อรวมกันจนกลายเป็นเสาหินที่มีรูปทรงขนาดใหญ่ ตั้งทรงสูงตระหง่านบนยอดเนินเขาอันอุดมสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยไฮไลท์ของมอหินขาววันนี้ คือ เสาหิน 5 ต้น ที่มีขนาดใหญ่สุดสูงราว ๆ 12 เมตร และมีความกว้างประมาณ 22 คนโอบ ซึ่งเสาหินทั้ง 5 ต้น มีชื่อเรียกตามความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

  • เสาหินต้นที่ 1 ชื่อ “ขุนศรีวิชัย” เชื่อว่าหากได้มากราบไหว้ จะมีแต่ชัยชนะร่ำไป
  • เสาหินต้นที่ 2 ชื่อ “หลวงปู่ฤาษี” เชื่อว่าหากได้มากราบไหว้ จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีโชคลาภ
  • เสาหินต้นที่ 3 ชื่อ “หลวงสมชาย” เชื่อว่าหากได้มากราบไหว้ จะมีสง่าราศี มีชื่อเสียงโด่งดัง 
  • เสาหินต้นที่ 4 ชื่อ “หลวงจันทร์” เชื่อว่าหากได้มากราบไหว้ จะมียศฐาบรรดาศักดิ์ 
  • เสาหินต้นที่ 5 ชื่อ “หมื่นสิงขร” เชื่อว่าหากได้มากราบไหว้ จะเจริญก้าวหน้า เติบโตในหน้าที่การงาน 

ไม่เพียงแต่ความงดงามอันแปลกตาของแท่งเสาหินทราย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้คนให้ได้มาชื่นชม แต่ที่ลานมอหินขาว คือ จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย แถมยังเป็นอีกแห่งที่ดารดาษไปด้วยทะเลดาวในยามค่ำคืน ทำให้บรรยากาศโดยรอบสุดแสนจะโรแมนติก ทำให้คนที่มาเยือนมอหินขาว กางเต้นท์นอนที่นี่เพื่อให้ได้ยลความงามของหมู่ดาว และยังได้ตื่นรับชมทะเลหมอก พร้อมกับรับแสงแรกของวัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบทุกโหมด 

นอกจากนี้ในบริเวณรอบ ๆ ลานมอหินขาวยังกลุ่มหินอื่น ๆ ที่มีความสวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างกลุ่มหินที่อยู่ถัดไปชื่อว่า ลานหินเจดีย์โขลงช้าง คือ กลุ่มหินทรงเตี้ย ที่มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลักษณะหัวตัดมน ตั้งกระจายทั่วบริเวณลานประมาณ 50-60 ก้อน ท่ามกลางดอกหญ้าสีชมพู หากใครมีแผนจะมาเที่ยวที่นี่ แนะนำใ้ห้มาถึงจุดนี้ในช่วงเย็ ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะมีบรรยากาศที่สวยงามและชวนผ่อนคลายสุด ๆ และการได้ชมพระอาทิตย์ตกที่จุดนี้ จะทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่าและฟินไปอีกนาน และสำหรับใครที่ชอบชมทะเลหมอกในยามเช้า แนะนำจุดชมวิวเขาหัวนาค เพราะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยสุดงามจริง และสามารถเห็นทิวทัศน์ผืนป่าไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา 

มอหินขาวเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. โดยมีค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท และสำหรับใครที่ต้องการกางเต็นท์นอนที่ลานมอหินขาว สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ มีค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 50 บาท และ เด็ก 40 บาท (ค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรติดต่อสอบถามก่อน) และต้องนำเต้นท์มาเอง โดยบริเวณลานกางเต็นท์มอหินขาวจะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล แต่ถ้าต้องการกางเต็นท์นอนบริเวณ ผาหัวนาค จะมีหน้าเจ้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวอยู่ประจำจุดนี้ 

การเดินทางไปมอหินขาว 

จากตัวเมืองจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ-ตาดโตน) ทางไปน้ำตกตาดโตน เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านอุทยานแห่งชาติ ขับไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10 กิโลเมตร จนถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติตาดโตนให้เลี้ยวซ้าย จะมีป้ายบอกทางไปตลอดทาง จนถึงบ้านวังคำแคน แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนลูกรัง ก็จะพบกลุ่มเสามอหินขาว 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร 093 093 9193 , 097 280 5434 หรือ 044 109 786 


Leave a comment
Your email address will not be published. Required fields are marked *