ไฟเตือนน้ำมันใกล้หมด ทำยังไงไม่ให้รถดับกลางทาง 

รู้ไหมว่า หากขับรถแล้วไฟน้ำมันขึ้นแจ้งเตือน ยังพอขับต่อไปได้อีกประมาณ 40 – 50 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ เช่น ฝนตก สภาพจราจร รถติด หรือ สภาพเส้นทาง เช่น ทางโค้งเยอะ ถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้ต้องใช้เกียร์ ใช้รอบสูง ส่งผลให้ระยะที่จะขับต่อไปได้ลดลงจากเดิม

หลายคนที่เมื่อขับรถอยู่ดี ๆ แล้วไฟเตือนน้ำมันหมด ก็จะรู้สึกกระวนกระวาย หรือลนลานจนทำอะไรไม่ถูก คนที่ชำนาญหน่อยก็จะรู้ว่าสามารถขับต่อไปได้ แต่ดันชะล่าใจ ขับต่อไปยาว ๆ สุดท้ายรถดับกลางทาง ก็มีมาแล้วไม่น้อยเลยล่ะ ดังนั้น หากเกิดเหตุสุดวิสัยในกรณีน้ำมันใกล้หมด ไฟแดงเตือนโร่ แต่ดั๊นไม่เจอปั๊มน้ำมันเลย มันก็ย่อมที่จะอดร้อนรนใจไม่ได้อยู่นา รถดับขึ้นมา ทำไงล่ะที่นี้ ถ้าใครที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย ๆ หรืออาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เรามีวิธีชะลอการกินน้ำมันของรถที่ทำได้ไม่ยาก และได้ผลจริง

1. ลดความเร็ว และ ลดการใช้เบรก 

เมื่อไฟเตือนน้ำมันหมด แถมหนทาข้างหน้ายังอีกยาวไกล และไม่รู้ว่าจะเจอปั๊มน้ำมันเมื่อไร สิ่งแรกที่ต้องทำเลย คือ ลดความเร็วในการขับรถ อยู่ที่ประมาณ 60 – 80 กิโลเมตร / ชั่วโมง และลดการใช้เบรก พยายามใช้เบรกให้น้อยที่สุด เพราะการเหยียบเบรกบ่อย ๆ หรือการเร่งความเร็ว จะยิ่งเป็นการใช้พลังงานจากน้ำมันสิ้นเปลืองมากขึ้น

2. ลดการใช้ไฟฟ้าภายในรถ 

ใช้ไฟฟ้าภายในรถให้น้อยที่สุด ลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เช่น ปิดเพลง ปิดแอร์ เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ เพราะระบบไฟฟ้าภายในรถเกี่ยวเนื่องกับพลังงาน และมีส่วนในการทำให้ปริมาณน้ำมันลดลง

3. หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรติดขัด หรือ เส้นทางไม่ราบเรียบ 

เช็กสภาพการจราจรได้หลายช่องทาง ทั้งระบบดิจิทัล แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ รวมไปถึงสภาพเส้นทางที่มีปัญหา เช่น พื้นผิวถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อน้ำขัง เพราะจะยิ่งทำให้ต้องใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ ส่งผลให้น้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว

โดยปกติของคนที่ขับรถส่วนใหญ่ มักจะปล่อยให้น้ำมันเหลือ 1 ใน 4 หรือเกือบหมดถังจึงจะเติมน้ำมัน ทำให้มอเตอร์ปั๊มติ๊กร้อนจนไหม้ เพราะไม่สามารถระบายความร้อนไปสู่น้ำมันได้ เนื่องจากปั๊มติ๊กทำหน้าที่ดึงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดถังบ่อย ๆ เพราะเครื่องยนต์จะทำงานหนักเกินไป จนอาจส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ เช่น แบตหมดไว ไดชาร์จรวน หม้อน้ำแห้ง ฯลฯ ทำให้ต้องนำรถเข้าอู่ซ่อมบ่อย ๆ เพราะฉะนั้น หากไม่อยากเสียเวลาและเสียเงินค่าซ่อมรถโดยไม่จำเป็น ควรเช็กน้ำมันก่อนใช้รถและเติมให้พอเพียงต่อการใช้งานอยู่เสมอ